ในฐานะบริษัทผลิตเรือนเวลาตามวิถีดั้งเดิม Longines ได้รังสรรค์เครื่องบอกเวลาที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มานับตั้งแต่แรกเริ่ม โดยในปัจจุบัน คอลเลคชัน Longines Master ยังร่วมเผยสะท้อนถึงนิยามของบริษัทได้อย่างสมบูรณ์แบบ อันพิสูจน์ได้จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวคอลเลคชันดังกล่าวเป็นครั้งแรกในปี 2005 โดยนาฬิกาทุกเรือนได้รับการติดตั้งด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ และในแต่ละรุ่นยังประกอบด้วยคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกัน คอลเลคชัน Longines Master จึงเป็นการผสมผสานของความสง่างามแบบคลาสสิกและคุณภาพอันเป็นเลิศ เหมาะอย่างยิ่งกับเหล่าผู้ซึ่งหลงใหลในเรือนเวลาสุดพิเศษ

นาฬิการุ่น Record อัตโนมัติ ได้รับการผสมผสานความหรูหราคลาสสิกและความเป็นเลิศตามประเพณีสืบทอดการผลิตนาฬิกาในแบบฉบับดั้งเดิมของ Longines เพื่อมุ่งเน้นสู่การเป็นผู้นำแห่งแบรนด์ ซึ่งไม่มีเคยมีการว่างเว้นจากข้อวิพากษ์เกี่ยวกับเรือนเวลาสุดพิเศษนี้ ด้วยการใช้กลไกที่มีบาลานซ์สปริงซิลิคอนชนิดผลึกเดี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และยังเป็นนาฬิกาชุดแรกของ Longines ที่ผ่านการรับรองในฐานะ "โครโนมิเตอร์" จากสถาบันทดสอบนาฬิกาโครโนมิเตอร์อย่างเป็นทางการของสวิตเซอร์แลนด์ (COSC) โดยมอบให้แก่นาฬิกาทุกเรือนในคอลเลคชั่น Record

Longines ผสมผสานสุนทรียภาพแบบดั้งเดิมของนาฬิการุ่นที่เป็นประวัติศาสตร์อันโดดเด่นเข้ากับเทคนิคการผลิตนาฬิกาที่ทันสมัยที่สุด ชิ้นส่วนของ Heritage Classic เป็นการถ่ายทอดความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนผู้ผลิตนาฬิกาของ Longines ตั้งแต่เริ่มแรก นาฬิกา Longines จึงได้รับการผลิตขึ้นด้วยความเชี่ยวชาญนี้และเป็นเรือนเวลาที่สะท้อนให้เห็นถึงความทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ตลอดจนความปรารถนาที่สอดคล้องกันในการยกย่องประวัติศาสตร์

Longines เผยเรือนเวลาคอลเลคชัน Flagship เป็นครั้งแรกในปี 1957 และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในปัจจุบัน คอลเลคชันสุดคลาสสิกดังกล่าวยังสามารถพบได้ในอีกหลากหลายเรือนเวลาที่ได้รับการผลิตขึ้นใหม่ โดยแต่ละเรือนได้รับการติดตั้งด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้ซึ่งหลงใหลในความคลาสสิกและเครื่องบอกเวลาที่ทนทาน รูปแบบของหน้าปัดและขนาดที่มีให้เลือกสรรอย่างหลากหลาย จึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้พบกับเรือนเวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรี

MINI DOLCEVITA คือผลงานชิ้นเอกที่มีความวิจิตรงดงาม และ quite luxury จากลองจินส์ และ เรือนเวลานี้ สะท้อนถึงผู้หญิงที่มีพลังอันเต็มเปี่ยมและเติมเต็มทุกสไตล์ได้อย่างสง่างาม

นับแต่แรกเริ่ม คอลเลคชัน Longines DolceVita เป็นดั่งภาพฉายของความสง่างามอย่างร่วมสมัยจากแบรนด์ผู้ผลิตเรือนเวลา Longines โดยนามนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า "Dolce Vita" ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความอ่อนหวานแห่งชีวิต และบัดนี้ ร่วมพบกับเรื่องราวขันขานบทใหม่แห่งคอลเลคชันที่ผ่านการนิยามอย่างเป็นเอกลักษณ์ถึงการออกแบบอันอ่อนโยน เรือนเวลารุ่นใหม่จะสะกดทุกสายตาของสุภาพสตรีผู้ปรารถนาในการแต่งแต้มสีสันให้แก่ชีวิต

นับตั้งแต่เปิดตัวในปีค.ศ.1992 ถือได้ว่าคอลเลกชั่น La Grande Classique de Longines นั้นมีบทบาทสำคัญในการสั่งสมชื่อเสียงในกับแบรนด์นาฬิกาทรายติดปีกแบรนด์นี้เสมอมา และยังเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสง่างามและหรูหราไร้กาลเวลาของแบรนด์ลองจินส์ รวมถึงยังมีความโดดเด่นด้วยตัวเรือนที่บางเฉียบ และมีสีสันให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษ แน่นอนว่าคอลเลกชั่นอันโดดเด่นนี้ต่างก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่หลงใหลในคุณค่าอย่างแท้จริง

ลองจินส์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่โด่งดังในการออกแบบเรือนเวลาของทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี และคอลเลกชั่น Longines PrimaLuna ก็นับได้ว่าเป็นคอลเลกชั่นเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรีที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ปีค.ศ.2009 ชื่อนี้ยังบ่งบอกเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่นได้เป็นอย่างดี นั่นคือตัวเรือนที่ได้แรงบันดาลใจจากดวงจันทร์ ไม่ว่าจะหน้าปัดตกแต่งเพชร หน้าปัดสีเงิน หรือหน้าปัดมุกมาเธอร์ออฟเพิร์ล ต่างก็เปรียบเสมือนดวงดาวเปล่งแสงประกายยามค่ำคืน โดยมีโมเดลให้เลือกทั้งกลไกควอตซ์และกลไกไขลานอัตโนมัติ และยังมาพร้อมเวอร์ชั่น 3 เข็มนาฬิกา แสดงวันที่ หรือฟังก์ชั่นข้างขึ้นข้างแรม (Moon phase) อีกด้วย

ผู้ใดเล่าจะลืมเลือนเหตุการณ์ในช่วงยุค 1920 ได้ลง? ในขณะนั้นทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เริ่มจากความเจริญรุดหน้าก้าวสำคัญในหลายสิ่ง หรือแม้กระทั่งเหล่าศิลปินและสไตลิสต์ผู้ได้รับเสรีภาพอย่างแทบไม่น่าเชื่อ แฟชั่นและงานดีไซน์ล้วนหลุดออกจากกฏเกณฑ์เคร่งครัดเดิมที่มีมานานนับศตวรรษ ในขณะที่ของใช้ส่วนตัวทุกชิ้นล้วนแต่มีขนาดเล็กลง พกพาง่าย กะทัดรัด และมีสไตล์มากยิ่งขึ้นทุกขณะ เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษจากคอลเลคชัน Longines Evidenza ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระแสความนิยมและสไตล์ที่แปรผันไป ขณะที่เรือนเวลารุ่นจากปี 1925 เป็นแรงบันดาลใจให้กับรายละเอียดงานออกแบบของคอลเลคชัน Longines Evidenza ตัวเรือนทรงถังเบียร์กลับสามารถสืบย้อนได้ถึงเรือนเวลาของ Longines จากปี 1911

นับตั้งแต่แรกเริ่ม Longines ได้มุ่งเน้นในด้านของความสง่างามเสมอมา คุณสมบัตินี้ไม่เพียงแค่พบได้ในผลิตภัณฑ์ของ Longines แต่ยังรวมไปถึงในการสื่อสารของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งทาง Longines มีปรัชญาอันโด่งดังว่า "ความสง่างามคือทัศนคติ" จึงไม่น่าแปลกใจหากแบรนด์จะเผยคอลเลคชัน Elegant ซึ่งประกอบไปด้วยเรือนเวลารุ่นต่าง ๆ ที่ได้รับการออกแบบอย่างคลาสสิกและสง่างามอันเป็นอัตลักษณ์เด่นของเครื่องบอกเวลาจาก Longines เรือนเวลามีให้เลือกในสามขนาดซึ่งติดตั้งด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ มีหน้าปัดหลากหลายรูปแบบ และนำเสนอนิยามแห่งความสง่างามในแบบฉบับแห่งตน

คอลเลคชัน Conquest Classic จาก Longines ผสานรวมความทันสมัยเข้ากับความประณีตที่ต้องอาศัยความชำนาญ อันเป็นการนิยามความหมายของแบรนด์ ผลงานการสร้างสรรค์ชิ้นใหม่ล่าสุดนี้มีทั้งความสง่างามและโฉบเฉี่ยว แต่คงความอ่อนหวานผสานกับความเด็ดเดี่ยวและความร่วมสมัยอันโดดเด่น นาฬิการุ่นนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นแบบอย่างแห่งยุคของผู้หญิงทันสมัย และจะสร้างความสุขใจให้กับผู้ที่ร้อยเรียงมุมมองชีวิตหลากหลายด้านของตนเองไว้ด้วยกันอย่างเชี่ยวชาญ

เส้นสายของคอลเลคชั่น Conquest ยังคงความสง่างามทำให้จิตวิญญาณแห่งการพิชิตของผู้กล้าทุกคนที่พร้อมจะก้าวไปให้ไกลกว่าคนอื่นๆ เพื่อแสวงหาขอบเขตของดินแดนอันไกลโพ้นใหม่ๆ ความมุ่งมั่นแบบเดียวกันนี้คือเบื้องหลังของการรังสรรค์รุ่นนาฬิกาในคอลเลคชั่น Conquest ตั้งแต่ปี 1954 นาฬิกาแต่ละเรือนประกอบด้วยการผสมผสานระหว่างประสิทธิภาพและความสง่างามที่ละเอียดอ่อน รวมถึงคุณสมบัติด้านเทคนิคที่ซับซ้อนที่สุด

คอลเลกชั่น Longines Spirit ใหม่ล่าสุดจากลองจินส์ ได้รับการรังสรรค์ขึ้นตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิมเฉกเช่นเรือนเวลาของเหล่านักบุกเบิกทางอากาศ ทางบกและทางน้ำผู้โด่งดังในอดีต ทั้งนักบินและนักสำรวจระดับตำนานไม่ว่าจะเป็น Amelia Earhart, Paul-Emile Victor, Elinor Smith และ Howard Hughes ต่างก็มอบความไว้วางใจให้เรือนเวลาของแบรนด์นาฬิกาทรายติดปีกนี้เป็นเพื่อนคู่ใจเคียงข้างตลอดการผจญภัยอันเหลือเชื่อมากมาย และในวันนี้ ลองจินส์จึงปรารถนาจะสืบทอดจิตวิญญาณนักบุกเบิกของพวกเขาผ่านเรือนเวลาคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดที่เปรียบเสมือนการสดุดีแด่สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษผู้หาญกล้าแห่งประวัติศาสตร์ โดยทุกๆ โมเดลในคอลเลกชั่น Longines Spirit นี้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ส่งผลให้กลไกนาฬิกามีความแม่นยำถึงขีดสุดและได้รับการรับรองมาตรฐานโครโนมิเตอร์

Longines ยังคงมีส่วนเกี่ยวข้องกับโลกแห่งการบินอย่างใกล้ชิดเป็นเวลายาวนาน ทางแบรนด์ได้ผลิตนาฬิกาและโครโนกราฟของนักบินจำนวนมาก อุปกรณ์ที่ใช้ในการบินและเครื่องมือนำทางอื่นๆ ซึ่งช่วยในการพัฒนาการบินพลเรือนและทหารในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และวันนี้ Longines ได้นำมรดกตกทอดอันล้ำค่านี้กลับมาอีกครั้งด้วยการนำเสนอนาฬิกาจากกลุ่ม "Heritage Avigation"

นับเป็นเวลายาวนานหลังจาก Longines ได้รับการก่อตั้งขึ้นที่ Saint-Imier เมื่อปี 1832 แบรนด์เรือนเวลาสวิสเลื่องชื่อดังกล่าวได้สืบทอดความสง่างามและประสิทธิภาพของเครื่องบอกเวลา คุณสมบัติเหล่านี้ได้รับการตอกย้ำผ่านคอลเลคชัน Longines Sport อย่างสมบูรณ์แบบ นาฬิกาในคอลเลคชัน HydroConquest ได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อเหล่าสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษผู้ต้องการเครื่องบอกเวลาสมรรถนะสูงซึ่งผสมผสานไว้ด้วยความก้าวหน้าทางนวัตกรรมกับความสง่างาม ซึ่ง 

การรังสรรค์ใหม่ของนาฬิกาดำน้ำยุค 1960 Longines Legend Diver ถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ Heritage รุ่นพิเศษของแบรนด์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ มีการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งมรดกล้ำค่าของ Longines โดยนาฬิกาทุกรุ่น ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณและเส้นสายที่เรียบหรูของนาฬิกาแบบดั้งเดิมทว่ามีการผสานคุณสมบัติทางเทคนิคที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่แปลกเลยที่เรื่องราวของนาฬิกาเรือนที่เป็นตำนานนี้จะกลายเป็นชิ้นงานล้ำค่า เป็นที่รู้จักและชื่นชอบสำหรับบรรดานักสะสม

ได้รับแรงบันดาลใจจาก Longines Ultra-Chron Diver ปี 1968 รุ่นดั้งเดิม นาฬิการุ่นใหม่พร้อมกลไกการทำงานความถี่สูงใหม่เป็นสัญลักษณ์ของการตีความขึ้นใหม่ครั้งแรกให้กับสิ่งที่ทำให้ Longines มีความแตกต่าง นั่นคือสถานะผู้บุกเบิกในโลกแห่งการบันทึกเวลาการแข่งขันกีฬา